Thursday, December 28, 2006

น้ำตาหน้าหนาว

with or without you
เมื่อกระดิ่งเจี้อยแจ้ว ม่านเริงระบำ
ตะวันขี้เซา เสื้อหนาวในตู้
ลมหนาวแวะมาเยี่ยมผมอีกครั้งแล้ว


ทุกปีเมื่อใกล้ถึงหน้าหนาว
เราสองคน ผมและเธอจะมีกิจกรรมอยู่อย่างหนึ่งที่ร่วมกันทำ
นั่นคือ “การถักไหมพรม” สำหรับหน้าหนาวที่ใกล้เข้ามา
ที่เรียกว่าร่วมกันทำ เพราะผมมีส่วนไม่น้อยในการ”ช่วย”นอนบนตักเธอ
ขณะเธอกำลังจดจ่อกับการสอดด้าย วงแล้ว วงเล่า บ่อยครั้งที่ผมเพลินจนหลับ

จังหวะการถักของเธอดูจะเรียกว่ามืออาชีพก็คงไม่อายปาก
ผมเฝ้ามองก้อนไหมพรมค่อยๆฟักตัวกลายเป็นสิ่งใหม่
แม้เธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆที่ไม่มีพลังยิ่งใหญ่
แต่เธอเป็นผู้เปลี่ยนก้อนไหมให้กลายเป็นหมวก ถุงมือ เสื้อหนาว ผ้าพันคอ
เป็นทุกอย่างสำหรับหน้าหนาวที่จะมาถึง

“แม่ๆๆๆ” เจ้าหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ ร้องระงม
ผมเอง ไม่ได้ยินคำว่า พ่อ หรืออะไรเทือกนั้น
แหม น่าน้อยใจไหม

ทุกหน้าหนาว กลับอบอุ่นเสมอ

และปีนี้เธอเองก็คงนึกในใจแล้วล่ะว่าจะถักเป็นอะไรดี
เราตัดสินใจว่าปีนี้เราจะถักแบบไหมลายใหม่ และสีสันที่ไม่เคยมีมาก่อน
แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องช่วยกันเลือกไหมส่วนเธอจะเป็นฝ่ายถัก
“ห้ามอู้ ”เธอย้ำ

ผมบรรจงเลือกไหมและเราก็จะเริ่มทำตั้งแต่วันนั้น
ผมรู้สึกมีส่วยร่วมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ไม่เหมือนครั้งก่อนเลย
คือ ผมเห็นเธอถักทอมันด้วยมือ
ผมแปลกใจยิ่ง เมื่อก้อนไหมพรมเหล่านั้นก็ลดลงอย่างที่เคยเป็น
แม้ว่ามันจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสิ่งใหม่ปรากฎออกมา
ผมถามเธอหลายต่อหลายครั้ง
ว่าคอเลคชั่นใหม่ที่เธอว่ามันจะเป็นอย่างไร

“ขออุบไว้ก่อน” เธอตอบ

ไม่กี่เดือนหลังจากวันนั้น เห็นสิ่งใหม่ที่เธอมอบให้ผม
แน่นอนเธอเป็นเด็กสาวตัวเล็กๆที่ไม่มีพลังยิ่งใหญ่
แต่เธอเป็นผู้สร้างสิ่งใหม่ที่แสนอบอุ่น อบอุ่นยิ่งกว่า หมวก ถุงมือ เสื้อหนาว ผ้าพันคอ
หรือใดๆที่เคยถักมา
ปีนี้เธอถักสิ่งที่แสนอบอุ่น
เป็นทุกอย่างสำหรับหน้าหนาวที่จะมาถึง

“แม่ๆๆๆ” เจ้าหมวก ถุงมือ ผ้าพันคอ ร้องระงม
ผมเอง ไม่ได้ยินคำว่า พ่อ หรืออะไรเทือกนั้น

เสียงแผ่วเบาลอยมาจากข้างกองไหมพรม
ผมผละจากตักเธอเดินดุ่มไปดูใกล้ๆ
“ปาป๊า”เสียงน้อยลอยอ้อยอิ่ง
น้ำตาหน้าหนาวกลั่นตัวแทบจะทันที
...น่าดีใจไหม

และเหมือนทุกครั้ง
ทุกหน้าหนาว กลับอบอุ่นเสมอ

ฤดูกาลก็คือเรา
เราก็คือฤดูกาล
ฉันใดก็ฉันนั้น