Thursday, May 10, 2007

ห้องเดียวกัน

คืนแรกในฐานะพระใหม่ ผมจับฉลากได้นอนห้องเบอร์ 5 อยู่ชั้นสอง เป็นกุฏิที่สะดวกสบายกว่าชั้นล่าง
เพรามีห้องน้ำในตัวและมีแมลงก่อกวนน้อยกว่า

โถงกลางเป็นทางเดินยาว สองฝากเป็นทางเข้ากุฏิ และส่วนกลาง ที่ๆพระจะได้ฉันน้ำปานะ และพูดคุยกัน
สุดทางเป็นห้องพระ ซึ่งตอนนี้ถูกดัดแปลงเป็นกุฏิพระใหม่ได้อีกสองห้อง การได้อยู่ชั้นสองก็ดีไปอีกอย่างเพราะ
อยู่ใกล้พระอาจารย์เรียกว่านอนห้องข้างๆกันเลย
นึกสงสัยจะปรึกษาอะไรก็เคาะได้ทันที
ทำให้นึกถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัยถ้าเป็นอย่างนี้บ้างก็คงจะดี

ห้องเบอร์ห้านี้ ที่ผมจับได้นี้ ยังมีพระจำอยู่แต่ในตอนนั้นท่านอาพาธ ผมเลยได้อาศัยไปก่อน
ผมไม่เคยพบหน้าและไม่รู้จักชื่อ
แต่ภายในห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือก็พอบอกได้ว่าท่านสนใจใคร่รู้สิ่งใด
มีหลายเล่มที่ผมอยากอ่าน บางเล่มก็อ่านแล้วเหมือนกัน หลายเล่มหนามากจนกลัว

คืนนั้นผมหยิบ ชาตกาล100 ปี ประวัติชีวิต การงานและหลักธรรม มาอ่านคลายเหงา
หวังว่าถ้าท่านหายกลับมาแล้วเราคงจะอ่านจบพอดี

หลังจากนั้นไม่นานท่านก็กลับมาพักที่วัดเพราะมีปัญหาเรื่องการรักษาของโรงพยาบาล
ที่ไม่มีน้ำใจต่อพระสงฆ์
พระอาจารย์บอกว่า ท่านว่า กลับมาตายที่วัดยังจะดีกว่า
ตอนแรกก็นึกเสียดายที่ผมเพิ่งขัดห้องน้ำ ซักผ้าเช็ดเท้าและซักผ้าปูเก้าอี้
แต่คิดอีกทีก็รู้สึกดีมากทีเดียว
ผมระเห็ดไปนอนห้องอื่น แต่เป็นชั้นสองเหมือนเดิม

ผมแวะไปเคาะทำความรู้จักกับท่าน
ท่านดูอ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวกและไออย่างหนัก
ผมชวนท่านไปงานปาฐกถาธรรม ของท่านติชนัทฮันท์
เร็วนี้ (แอบเห็นหนังสือ ท่านนัท ฮันท์ ในกุฏิท่านหลายเล่ม)
ท่านสนใจมาก แต่ขอดูอาการก่อน

ท่านเป็นมะเร็งที่ปอดครับ ตอนนี้ก็ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่
เมื่อวานผมเอาหนังสือสัมภาษณ์คุณหมอที่พิชิตโรคมะเร็งร้ายได้สำเร็จ
หวังให้ท่านมีกำลังใจ

แต่วันนี้ท่านพระอาจารย์แจ้งข่าว
หลังจากที่นำตัวพระท่านนั้นไปส่งโรงพยาบาลจุฬาฯกลางดึก
เนื่องจากมีเตียงว่างพอดี ซึ่งหาโอกาสนั้นได้ยากมาก
ว่าท่านเป็นมะเร็งขั้นที่ 4 แล้ว มีเวลาอยู่ได้อีก
2-6 เดือน
ท่านไม่ได้สูบบุหรี่ บวชมาสองปีแล้ว ใช้ชีวิตสมณะ
ที่เรียบง่าย
ท่านเพิ่งเริ่มป่วยเมื่อต้นปี
เดือนที่แล้วท่านยังออกบิณฑบาตร
ตามหน้าที่ ด้วยความแข็งแรง

แม้เพิ่งจะรู้จักแต่ก็รู้สึกเสียใจแทน
ทำได้เพียงร่วมกันส่งผลบุญจากการปฏิบัติธรรมให้ท่าน

จงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท พระพุทธเจ้าว่าไว้
ท่านทั้งหลายก็พึงทำความดีให้ถึงพร้อมด้วยเถิด
เพราะพรุ่งนี้เราจะตื่นไหม มิอาจทราบได้


"ผมยืมหนังสือไปอ่านเล่มนึงครับ หลวงพี่"
"ดีๆ อนุโมทนาๆดีมากๆไม่เป็นไร"

ตอนนี้อ่านไปครึ่งเล่มแล้วครับ จะรีบคืนให้นะครับ

Tuesday, May 01, 2007

ณ ที่นั้นฉันเห็นเธอ...

ฉันกำลังมองท้องฟ้าสีคราม

ท้องของฟ้าปรับเปลี่ยนหมุนเวียนตามสภาพ

บางวันฟ้าจ้า

บางวันฟ้าครื้ม

ประดับด้วยพลอยดาว

ฤาปุยขาวเมฆา

จะแปรไปเยี่ยงใด
ฟ้าก็ยังเป็นฟ้า อยู่วันจนค่ำ

พู่กันของใครหนอ

แต้มสีแดงในยามใกล้ค่ำ

สีม่วงในยามฝน

มึดมิดหลับไหล

ฤาเหลืองอร่ามในยามเช้า

ไม่ว่าจะแปรสีสันไปเยี่ยงใด
ฟ้าก็ยังเป็นฟ้า อยู่วันจนค่ำ


แล้วเธอล่ะเห็นมันอยู่ไหม

แหงนดูซิ แหงนดู

ฟ้าอยู่ที่นั่นตลอดเวลา

จริงแท้ แน่นนอน

และเป็นฟ้าเดียวกับที่ฉันเห็น

แต่ฉันกำลังฝึกฝน

กับปีกและขน ที่มีคนให้ฉันมา
เป็นสิ่งที่ฉันเฝ้ารอมานาน

มันยังดูติดขัดในช่วงแรกๆ
แต่ฉันมีฉันทะ และศรัทธา

ฉันยังเป็นคนเดิม บอกเธอมั่นเหมาะ
แม้ว่าจะห่มคลุมด้วยขนบริสุทธิ์บนปีกคู่นี้

ฉันกำลังหัดบิน

นี่...แล้วเธอล่ะเห็นฉันอยู่ไหม

แหงนดูซิ แหงนดู

ฟ้าอยู่ที่นั่นตลอดเวลา

จริงแท้ แน่นนอน

และเป็นฟ้าเดียวกับที่ฉันคนนี้

กำลังเข้าใกล้ ใกล้ขึ้นทุกปัจจุบันขณะ...



ช่างสดชื่นและเบาบาง
และในวันที่ฉันได้มองลงจากฟ้า
ณ ที่นั้นฉันเห็นเธอ...และเธอจะเห็นฉัน


ฐ.สารัฏฐิโต