Tuesday, December 16, 2008

ไดอารี่

วันจันทร์ที่ผ่านมามีโอกาสไปร่วมงานรพีเสวนา ที่หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย งานนี้จัดเป็นครั้งแรก โดยอยู่ในหัวข้อเรื่อง”การเรียนรู้เพื่อความเป็นไท” โดยมีครูอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย โรงเรียนในเครือข่ายโรงเรียนไทยไท รวมทั้งพี่ๆเพื่อนๆน้องๆที่รู้จักกันเดินกันไปมาเต็มงานไปหมด จะว่าเป็นหน้าเดิมๆก็ใช่อยู่
ความรู้สึกที่ได้มานั้นมีคุณค่ามาก ช่วยเติมพลังให้กับจิตใจ รู้สึกว่าประเทศไทยยังมีหวังจากคนดีๆที่ทำเรื่องเล็กๆตามมุมต่างๆ อาจเรียกได้ว่าปิดทองหลังพระ หรือใต้ฐานพระก็ได้ บุคคลที่มองเห็นคุณค่าของการศึกษาและเยาวชนย่อมเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ มองเห็นอนาคตในปัจจุบัน เพราะเด็กหาใช่อนาคต แต่เป็นปัจจุบันที่เปี่ยมด้วยพลังความดี การศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนาในทุกๆระดับและรอบด้าน การศึกษาทางเลือ(ที่ควรจะเป็นทางหลัก) จะนำปัญญาที่กลั่นกรองเข้าทดแทนความรู้ที่มากจนเกินไป ในโลกนี้ ซึ่งจะนำพาไปสู่การเข้าใจชีวิตที่แท้จริง
คุณครูท่านหนึ่งพูดว่า”รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆที่ได้เป็นครู เพราะเป็นอาชีพที่ทำแล้วมีความสุข เป็นอาชีพที่มีคนจ้างให้เราเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา“ ผมมีความสุขทันทีเมื่อเห็นใบหน้าเปี่ยมยิ้มของคุณครู
การเสวนาที่ส่วนมากจะทำให้ผมง่วงนอนแต่วันนี้กลับตื่นเกือบตลอด(มีหลุดบ้างหลังกินข้าว) ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความเข้มข้นของเนื้อหาในงาน
ภายนอกยังมีซุ้มของโรงเรียนต่างๆให้เด็กพาเข้าไปเล่น หรือนำเสนองานต่างๆ และเป็นเด็กที่น่ารักๆทั้งนั้น ที่สำคัญพรีเซนเก่งมากด้วย๕๕๕
สุดท้ายวันนี้ก็ได้เจอเพื่อนผองที่เรียนอยู่ที่อาศรมศิลป์ คุ้ง น้ำ ชาย สองคนหลังนี่ไม่ได้เจอนานมาก ทำให้ดีใจไม่ใช่น้อย มองดูเพื่อนกำลังก้าวไปในหนทางของตนๆ เราเองก็จะพยายามเช่นกัน

เย็นวันอังคาร ก็มีนัดไปนั่งคุยกับพี่ภิญโญ ที่โอเพ่น รู้สึกเหลือเกินว่าอารมณ์ความรู้สึกเหมือนเมื่อวานคือ มีแรงบันดาลใจและความหวังมากยิ่งขึ้น โปรเจคต่างๆดูจะเป็นรูปเป็นร่างเมื่อมีผู้ใหญ่คอย ใส่ความคิดคมๆ ด้วยประสบการณ์ที่เคี่ยวกรำมาแล้วอย่างดี นั่งจิบชาจอกแล้วจอกเล่าที่พี่เล่นเติมไม่ยั้ง ทำให้การสนทนาไม่ติดขัดและไหลลื่น เวลาหมดไป หนังสือเริ่มตั้งข้างหน้าผมเล่มหนึ่ง ผมก็ยื่นหนังสือธรรมะที่ทำกับณขวัญสวนไปได้เล่มหนึ่ง แต่พี่ก็ยิงไม่ยั้ง สุดท้ายได้หนังสือกลับไปอ่านฟรีสามเล่มใหญ่ พอเสร็จเรื่องคุย ต้องขอกลับก่อนเพราะถ้านั่งต่อไปหนังสืออาจหมดสำนักก็เป็นได้ เจอกันใหม่อีกทีปีหน้าฟ้าใหม่
อะไรก็คงจะดีขึ้น ปีใหม่ที่จะถึงขอให้ความหวังและแรงบันดาลใจได้มีโอกาสแทรกเข้าสู่กระแสใจของทุกๆคน ให้มากเท่าที่จะมากได้

๑๗ ธ.ค. ๕๑

No comments: