Tuesday, December 02, 2008

เย็นอากาศ


กังหันเดียวดาย
ยังคงหมุนไป
เย็นที่ฟ้าครื้มฝน
ความหวังดำรง
น้ำคงสะอาดสักวัน

ชีวิต แล่นไป
หายใจ ไม่รู้
โลกหมุน ไม่รู้
คิดไป ไม่รู้
ไม้ไหว ไม่รู้
ไม่รู้ก็ไม่รู้
รู้ก็ไม่รู้

ชีวีหยุดไหล
หายใจ ก็รู้
โลกหมุน ก็รู้
คิดไป ก้รู้
ไม้ไหว ก็รู้
ไม่รู้ก็รู้
รู้ก็รู้

น้ำกลิ้งบนบัว
หลิวเรียงริมบ่อ
สยายม่านใบสลวย
ยอดไม้โคลงเคลง
เมฆเคลื่อนไปทางซ้าย
อย่างเชื่องช้า
ทุกสิ่งในคลื่นน้ำ
ยิ่งไหว ยิ่งไหว

เดินต้านลมหนาว
สัมผัสยอดหญ้า
เย็นน้ำยอดใบ

ใบไม้ทิ้งใบ ไวผ้าแห้ง
แสงตัดหมอกเช้า นอนซุกผ้าห่ม
ลมเปลี่ยนทิศ ชีวิตเปลี่ยนผัน
ฉันไม่เปลี่ยนแปร

3 comments:

Prang said...

เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าบทเจ้ากลอนเหมือนกัน..555+..

ชอบมากค่ะโดยเฉพาะที่ออกมาจากความรู้สึกจริงๆแล้วก็เป็นธรรมะดี...(^______^)

ขอให้สุขกาย...สุขใจ...ตลอดไปนะค่ะ

Prang said...

ลืมบอกไปค่ะ ว่า.....

ขอบคุณนะค่ะ มากๆด้วย ถ้าไม่ได้รู้จักชื่อและนามสกุลหลวงพี่วันนั้น...ก็คงเสียโอกาสในการศึกษาต่อ...(คงไม่มีคำว่า"บังเอิญ"ในหมู่นักปฏิบัติธรรม ใช่ไหมค่ะ)

แล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานะท่านตอนนี้เป็นอย่างไร(ยังบวชอยู่หรือเปล่าค่ะ?????)...กลับไปก็ไม่เห็นเจอเลย...

ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ...

ปล.ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าหนูเป็นใคร....555+..

Aor Sutthiprapha said...

so much Hiku poem..